[วิเคราะห์เชิงลึก] “อับอาย” “น่าขนลุก” “ไม่พอใจ”… ‘เอกสารหลุดจาก HYBE’ จุดกระแสตื่นตระหนกเป็นวงกว้าง –
โดยผู้สื่อข่าว คิม ซูจอง
[วิเคราะห์เชิงลึก] “อับอาย” “น่าขนลุก” “ไม่พอใจ”… ‘เอกสารหลุดจาก HYBE’ จุดกระแสตื่นตระหนกเป็นวงกว้าง –
Part 1
สรุปข่าว:
[วิเคราะห์เชิงลึก] “อับอาย” “น่าขนลุก” “ไม่พอใจ”… ‘เอกสารหลุดจาก HYBE’ จุดกระแสตื่นตระหนกเป็นวงกว้าง –
– มีรายงานว่ามีเอกสารที่ในเนื้อหานั้นมีการพูดถึงในเชิงดูถูกและล้อเลียน รวมถึงวิจารณ์เรื่องรูปลักษณ์ของศิลปิน ถูกสร้างและเผยแพร่ให้ผู้บริหารระดับสูงเป็นรายสัปดาห์
– หลายคนมองว่าเอกสารนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์เทรนด์หรือข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรม
– HYBE ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ที่ได้รับการยอมรับ กำลังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ รวมไปถึงความโกรธและความผิดหวังจากการกระทำนี้
การเปิดเผย “รายงานอุตสาหกรรมเพลงประจำสัปดาห์” ของ HYBE (ซึ่งขอเรียกสั้นๆ ว่า “เอกสารจาก HYBE”) ในระหว่างการสอบสวนของสมัชชาแห่งชาติ ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการบันเทิง เอกสารนี้จัดทำขึ้นโดยบรรณาธิการจากนิตยสาร Weverse ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ HYBE และส่งให้กับผู้บริหารระดับสูงของ HYBE ทุกสัปดาห์ โดยคาดว่าเริ่มจัดทำมาตั้งแต่ต้นปี 2022 ตามข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการครั้งแรก HYBE นั้น ทาง HYBE เรียกเอกสารดังกล่าวว่าเป็น “รายงานการติดตาม” โดยอ้างว่ามีจุดประสงค์เพื่อแบ่งปันแนวโน้มและความคิดเห็นในอุตสาหกรรม เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่าเอกสารนี้ขาดการวิเคราะห์ที่อ้างอิงจากข้อมูลหรือข้อมูลที่ยืนยันได้ นอกจากนี้เนื้อหาในเอกสารยังมพบข้อความในเชิงดูถูกและเสียดสีเกี่ยวกับรูปลักษณ์และความสามารถของศิลปินหลายๆ คนอีกด้วย
เอกสารดังกล่าวได้วิจารณ์บุคลากรและศิลปินจากค่ายเพลงต่าง ๆ เช่น SM, JYP, YG, Starship และ Cube เป็นต้น โดยเน้นไปที่การวิจารณ์ตัวบุคคลมากกว่าการประเมินผลงานเพลง แนวคิด หรือทิศทางของทีมดูแลศิลปิน แต่เนื่องจากมีบางส่วนที่ยังไม่ได้เผยแพร่สู้สาธารณชน จึงมีการคาดการณ์ว่าเนื้อหาที่เหลืออาจมีการวิจารณ์ในขอบเขตที่กว้างขวางและมีประเด็นที่น่ากังวลมากกว่าที่เห็น ทาง CBS No Cut News ได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการบันเทิงหลายระดับและจากบริษัทขนาดต่าง ๆ เพื่อสอบถามมุมมองของพวกเขาต่อเอกสาร HYBE ชุดนี้
“เราไม่ทำแบบนั้น” / “ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน”
ตั้งแต่มีการเผยแพร่เอกสาร HYBE ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งก็คือการเหมารวม หลายๆ คนมองว่าบริษัทบันเทิงหลายๆ แห่งก็ดำเนินการติดตามความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมคล้ายกัน และ HYBE ถูกเลือกเป็นเป้าหมายโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม วงในอุตสาหกรรมก็เห็นพ้องว่า “การวิเคราะห์” นั้นไม่ได้เกิดขึ้นใน “ลักษณะแบบนั้น”
โดยปกติ การติดตามบริษัทคู่แข่งมักเน้นไปที่กรณีที่ประสบความสำเร็จ โดยส่วนใหญ่จะพิจารณาถึงเหตุผลที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ในขณะที่กรณีที่ไม่ประสบความสำเร็จมักจะแบ่งปันอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่คล้ายกันนี้ และความคิดเห็นที่ไม่เป็นทางการจากออนไลน์มักจะไม่ถูกรวมอยู่ในเอกสารแบบทางการ
มีคนวงในคนหนึ่งชื่อว่า บี (นามสมมติ) ได้กล่าวว่า “เมื่อเราร่างรายงาน เรามักจะมุ่งเน้นไปที่สาเหตุที่ทำให้ประสบความสำเร็จ หรือเปรียบเทียบผลลัพธ์ในภูมิภาคต่างๆ หลายๆ คนในวงการต่างพูดกันว่าพวกเขาไม่เคยเห็นหรือทำเอกสารอะไรแบบนี้มาก่อน มันไม่เป็นลักษณะเฉพาะเลย ผู้คนพูดกันว่ามันน่าอับอาย และทำให้มาตรฐานของอุตสาหกรรมต่ำลง อีกทั้งมันยังกลายเป็นประเด็นพูดคุยในช่วงเวลาพักกลางวันด้วย”
ในขณะที่คนวงในนามสมมติว่า C กล่าวว่า “ฉันคิดว่ามีการรายงานแนวโน้มบางอย่างที่มีอยู่ในบริษัทบันเทิง แต่เอกสารอย่างรายงานของ HYBE ที่เต็มไปด้วยความคิดเห็นหยาบคายจากเหล่าแฟนๆ K-POP ทั่วไปที่ถูกนำมาตีความแบบคำต่อคำนั้น ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”
ผลสะท้อนถึงความผิดพลาดของ HYBE และเน้นวิธีการที่ไม่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบันเทิง
หลังจากการปล่อยเอกสารนี้ออกมา ทาง HYBE ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ 2 ฉบับที่ตรงกันข้ามกัน ในวันแรกของการสอบสวนของสมัชชาแห่งชาติ พวกเขาได้อ้างว่าเป็นเพียงการรวบรวมความคิดเห็นเพื่อการตรวจสอบ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นท่าทีของ HYBE และในขณะเดียวกันก็ได้ข่มขู่ที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่ปล่อยข้อมูลนี้หลุดออกมาด้วย
คนวงในระบุว่า HYBE ให้ความสำคัญกับแนวทางที่ “ไม่เกี่ยวข้องความบันเทิง” มาตั้งแต่แรก โดยชี้ให้เห็นว่าทีมผู้นำของบริษัทประกอบด้วยบุคคลจากด้าน IT และเทคโนโลยี เช่น อดีตผู้บริหารจาก Nexon อย่างพัค จี-วอน, ชิน ยอง-แจ จาก Big Hit Music, และคิม แท-โฮ COO ของ HYBE ที่เคยทำงานให้กับ Naver และ Daum มาก่อน
โดยคนวงใน B ได้กล่าวว่า “บางคนเริ่มสงสัยว่าทำไม HYBE ถึงยังคงออกแถลงการณ์ที่เชิญชวนให้เกิดการวิจารณ์เพิ่มเติม พวกเราคิดว่า ‘พวกเขามีทีมจัดการวิกฤตหรือไม่?’” ในทำนองเดียวกัน คนวงใน E ได้สังเกตว่า “ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพยายามเบี่ยงเบนความสนใจโดยใช้วิธีที่ไม่ตรงไปตรงมา และตอนนี้สถานการณ์ได้บานปลายออกไปจากการจัดการที่ไม่ดีในตอนแรกแล้ว”
ในขณะที่คนวงในคนอื่นๆ สังเกตว่าภาษาที่หยาบและรูปแบบของรายงานนั้น อาจเกี่ยวข้องกับการนำโดยคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงของ HYBE มาตั้งแต่แรก โดยคนวงใน H ได้อธิบายว่า “ปัจจุบัน HYBE มีคนจำนวนมากที่มาจากแขนงอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับวงการบันเทิง ดังนั้นพวกเขาอาจไม่เข้าใจความละเอียดอ่อนในวงการบันเทิง ทำให้ภาษาที่ใช้ในรายงานมีความผิดแปลกไปจากที่ควรจะเป็น”
การขอโทษอย่างเป็นทางการและข้อวิจารณ์ “การหาแพะรับบาป”
เมื่อถูกสอบสวนเกี่ยวกับเนื้อหาของเอกสารในสมัชชาแห่งชาติ ในตอนแรก HYBE ได้ออกมาปฏิเสธโดยอ้างว่า “นี่ไม่ใช่จุดยืนอย่างเป็นทางการของ HYBE” อย่างไรก็ตาม เพียงห้าวันหลังจากนั้น ในวันที่ 29 ตุลาคม CEO ของ HYBE, ลีแจซาง ได้ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ ซึ่งการขอโทษนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมจากรายงานที่เผยออกมา แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ในการพยายามสร้างความคิดเห็นที่ดีต่อสาธารณะเกี่ยวกับศิลปินของตน แต่กลับทำให้ความรู้สึกของสาธารณชนแย่ลง
ในแถลงการณ์นี้ อีแจซังได้ออกมายอมรับว่า “มีการใช้ภาษาที่เป็นการยั่วยุและหยาบคายต่อศิลปิน K-POP รวมไปถึงมีการเพิ่มมุมมองและความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอกสาร ลงไปด้วย และเนื้อหานี้ถูกบันทึกไว้ในเอกสารอย่างเป็นทางการ” อีกทั้งเขายังได้ขอโทษทั้งศิลปินของ HYBE และศิลปินจากค่ายอื่นๆ และกล่าวว่าพวกเขากำลังติดต่อกับค่ายที่ได้รับผลกระทบเพื่อขอโทษเป็นการส่วนตัว ในขณะที่ผู้เขียนรายงานดังกล่าวคือ ผู้อำนวยการ A ซึ่งต่อมาได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งไปแล้ว
ต่อมามีรายงานว่า บังชีฮยอก ประธาน HYBE ได้สั่งการให้เพิ่มชื่อ Zico ศิลปินและประธานค่ายค่าย KOZ Entertainment ซึ่งเป็นค่ายลูกในเครือของ HYBE เข้ามาเป็นผู้รับรายงานนี้ด้วย ซึ่งนำไปสู่การวิจารณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความจริงใจและความเพียงพอของคำขอโทษ โดยผู้วิจารณ์กล่าวว่าผู้นำระดับสูง รวมถึงบัง ควรจะต้องรับผิดชอบ
แหล่งข่าวในวงการบันเทิงเจ้าหนึ่งได้ออกมาวิจารณ์ HYBE อย่างรุนแรงว่า “นี่ดูเหมือนเป็นความพยายามที่ไร้สาระในการหาคนรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาของผู้อำนวยการ A แต่ผู้บริหารระดับสูงก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน จากท่าทีของ CEO ทำให้ยากที่จะพบความจริงใจในคำขอโทษนี้ มันน่าขำที่ประธานบังชีฮยอกและผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ ไม่ได้ออกมารับผิดชอบและขอโทษด้วยตนเอง แม้ว่าพวกเขาจะอ้างว่าติดต่อหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบเพื่อขอโทษ แต่จนถึงวันที่ 30 ตุลาคมแล้ว ก็ยังไม่มีใครยืนยันว่ามีการติดต่อเช่นนั้น มันดูเหมือนว่าพวกเขาพยายามที่จะกลบเกลื่อนเรื่องนี้”
แหล่งข่าวในวงการ I กล่าวว่า “เนื้อหาของเอกสารทำให้รู้สึกโกรธมาก แต่การที่เห็นเพียงคนเดียวถูกลดตำแหน่งทำให้คิดถึงวิธีการที่ไม่ดีที่มักพบเห็นในวงการการเมืองหรือกลุ่มบริษัท ซึ่งยิ่งทำให้ฉันโกรธมากขึ้นไปอีก ตอนนี้ HYBE กลายเป็นบริษัทใหญ่แล้ว พวกเขายังนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้หรือไม่? แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด พวกเขาก็ควรจะต้องรับผิดชอบและแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ การยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ‘การตลาดแบบไวรัลย้อนกลับ’ ทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ถือว่าปัญหานี้เป็นเรื่องที่จริงจัง”
แหล่งข่าว H กล่าวเสริมว่า “คำขอโทษของ CEO อีแจซัง แม้ว่าเขาจะเป็นผู้บริหารระดับ C และได้รับเอกสารนี้มาก่อน แต่เขาเป็นคนที่เหมาะสมจริงหรือที่จะออกคำขอโทษนี้? เขายังไม่ได้นั่งเก้าอี้ CEO มานานมากนัก”
คนในวงการ G กล่าวเพิ่มเติมว่า “เท่าที่ฉันรู้ พนักงานระดับล่างไม่ได้รับการติดต่อโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO เลย หากมีใครในบริษัทตั้งคำถามเกี่ยวกับรายงานนี้ บริษัทที่มีการจัดการที่ดีคงจะยุติเรื่องนี้ไปแล้ว นี่ไม่ใช่การรวบรวมความคิดเห็น แต่เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้รับการตรวจสอบและเผยแพร่มาเป็นเวลานาน การมีทีมงานที่ทุ่มเทให้กับการเตรียมเอกสารดังกล่าวในแต่ละช่วงเวลานั้นแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่บริษัทยึดมั่นอย่างแท้จริง”
อีกหนึ่งคนวงในอุตสาหกรรมมืออาชีพ C ได้เน้นประเด็นที่ลึกซึ้งว่า “ปัญหาหลักคือวิธีที่ผู้บริหารของ HYBE มองอุตสาหกรรมบันเทิง หากพวกเขามีความเคารพต่ออุตสาหกรรมบันเทิงและศิลปินจริง ๆ อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ควรที่จะสั่งให้ปรับคำในเอกสารให้ดูอ่อนลง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีใครแสดงความไม่สบายใจต่อรายงานนี้ มันจึงดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลานาน มิฉะนั้น สิ่งนี้อาจชี้ให้เห็นถึงวัฒนธรรมภายในที่พนักงานรู้สึกว่าตนไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ”
มีต่อ Part 2 อยู่ข้างล่างกระทู้นี้ ⬇️⬇️⬇️
แก้ไขข้อความเมื่อ
ขอบคุณที่มา: https://m.pantip.com/topic/43059875